วางแผนการเงินกับอาจารย์ปิง | วางแผนภาษี 2564 ใครมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาบ้าง?
แก้ไขเมื่อ : 18 ธ.ค. 2564
ใครมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา?
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ผู้ที่มีสถานะตามที่กำหนดและได้รับเงินได้พึงประเมินตามลักษณะที่ระบุจากแหล่งในประเทศหรือนอกประเทศตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอาจมีสถานะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
- บุคคลธรรมดา
- ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
- กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
- ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
บุคคลธรรมดาที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หมายถึง บุคคลที่มีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ทารกแรกเกิด เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ขอเพียงแค่ยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ถึงแก่ความตาย หากมีเงินได้สุทธิถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ผู้ถึงแก่ความตายที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หมายถึง ผู้ถึงแก่ความตาย ไม่ว่าจะเป็นระหว่างปีภาษี หรือก่อนยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี หากมีเงินได้สุทธิถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยผู้จัดการมรดก ทายาท หรือผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ถึงแก่ความตายต้องมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทนผู้ถึงแก่ความตาย
กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ในปีภาษีถัดจากปีที่บุคคลถึงแก่ความตาย ถ้าหากยังไม่ได้แบ่งมรดกให้กับทายาทคนใดคนหนึ่งโดยเด็ดขาด และกองมรดกดังกล่าวมีเงินได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่ประมวลรัษฎากรกำหนดไว้ กองมรดกดังกล่าวก็ถือว่าเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยเช่นกัน โดยผู้จัดการมรดก ทายาท หรือผู้ครอบครองทรัพย์มรดกต้องมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแทนผู้ถึงแก่ความตาย
ห้างหุ้นส่วนสามัญ หมายถึง บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงเข้ากันเพื่อกระทำกิจการร่วมกันด้วยประสงค์จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้จากกิจการที่ทำ ทั้งนี้ในทางปฏิบัติการตีความคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.149/2558 กรณีดังต่อไปนี้ถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ เช่น
- การเข้าร่วมกันเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร
- การเข้าร่วมกันซื้อหุ้น
- การเข้าถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินร่วมกัน
- การเข้าร่วมกันของแพทย์เพื่อทำกิจการรักษาคนไข้
- การเข้าร่วมกันของนักแสดงหรือพิธีกรในการรับงานแสดงหรือรับงานพิธีกร
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หมายถึงบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปตกลงกระทำการร่วมกันอันมิใช่ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือก็คือไม่มีวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งปันกำไรอันจะพึงได้แต่กิจการที่ทำนั้น เช่น
- คณะกรรมการนักศึกษาจัดหาทุนเพื่อกระทำกิจกรรมในกลุ่มของตน
- คณะกรรมการจัดหาทุนเพื่อสร้างและปรับปรุงโบราณสถาน
- ชมรมแม่บ้านจัดกิจกรรมหาทุนเพื่อสร้างโรงพยาบาล
วิสาหกิจชุมชน หมายถึง กิจการของชุมชนเกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการ หรือการอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยคณะบุคคลที่มีความผูกพัน มีวิถีชีวิตร่วมกันและรวมตัวกันประกอบกิจการดังกล่าวเพื่อสร้างรายได้และเพื่อการพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชน
- รูปแบบของวิสาหกิจชุมชนประกอบด้วย บุคคลธรรมดา ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล และนิติบุคคล ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด
- วิสาหกิจชุมชนรูปแบบบุคคลธรรมดาจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ผู้ที่อยู่ในข่ายเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้ง 5 สถานะดังกล่าวจะต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหากมีเงินได้พึงประเมินตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้เงินได้พึงประเมินอาจอยู่ในลักษณะดังต่อไปนี้
- เงินตราไทยหรือเงินตราต่างประเทศที่คำนวณค่าเป็นเงินตราไทย
- ทรัพย์สินซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน เช่น รางวัลที่ได้รับจากการชิงโชค หุ้นที่ได้รับแจกจากบริษัท
- ประโยชน์ซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน เช่น การอยู่บ้านของนายจ้างโดยไม่เสียค่าเช่า
- เงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้
- เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เครดิตภาษีเงินปันผล
ผู้ที่อยู่ในข่ายเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทั้ง 5 ประเภทที่มีเงินได้พึงประเมินถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดจากแหล่งในประเทศและนอกประเทศดังต่อไปนี้ถือว่าเป็นผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นจากแหล่งในประเทศระหว่างปีภาษีที่ผ่านมา หรือก็คือปีปฏิทินที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม
ทั้งนี้เงินได้ที่เกิดจากแหล่งในประเทศ หมายถึง รายได้ที่เกิดจาก
- หน้าที่งานที่ทำในประเทศไทย
- กิจการที่ทำในประเทศไทย
- กิจการของนายจ้างในประเทศไทย
- ทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทย เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า เป็นต้น
ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นจากแหล่งในประเทศไม่ว่าจะมีสัญชาติใด อาศัยอยู่ที่ไหน ก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยเสมอ
- ผู้ที่นำรายได้ที่เกิดขึ้นจากแหล่งนอกประเทศเข้ามาในประเทศไทยระหว่างปีภาษีที่ผ่านมาและอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 180 วันในปีภาษีนั้น
ทั้งนี้เงินได้ที่เกิดจากแหล่งนอกประเทศ หมายถึง รายได้ที่เกิดจาก
- หน้าที่งานที่ทำในต่างประเทศ
- กิจการที่ทำในต่างประเทศ
- ทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ
ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้กล่าวถึงข้างต้นที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับกรมสรรพากรด้วย
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ
ผู้ที่มีสถานะใดๆดังต่อไปนี้
- บุคคลธรรมดา
- ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
- กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
- ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ซึ่งมีเงินได้พึงประเมินในลักษณะใดๆดังต่อไปนี้
- เงินตราไทยหรือเงินตราต่างประเทศที่คำนวณค่าเป็นเงินตราไทย
- ทรัพย์สินซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน
- ประโยชน์ซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน
- เงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้
- เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกำหนด
ซึ่งมีแหล่งเงินได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดดังนี้
ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นจากแหล่งในประเทศระหว่างปีภาษีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะมีสัญชาติใด อาศัยอยู่ที่ไหน จาก
- หน้าที่งานที่ทำในประเทศไทย
- กิจการที่ทำในประเทศไทย
- กิจการของนายจ้างในประเทศไทย
- ทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทย
ผู้ที่อยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 180 วันระหว่างปีภาษีที่ผ่านมาและนำรายได้ที่เกิดขึ้นจากแหล่งนอกประเทศเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีนั้น จาก
- หน้าที่งานที่ทำในต่างประเทศ
- กิจการที่ทำในต่างประเทศ
- ทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ